Facebook Marketing

เทคนิคเล็กๆ น้อย ในการดึงดูดลูกค้าทาง Facebook

ร้านค้า2ร้าน ขายสินค้าประเภทเดียวกัน ร้านค้าร้านหนึ่งไม่ค่อยมีคนเข้า อีกร้านหนึ่งมีคนเข้าเยอะมาก ขายของได้ทุกวัน ทำกำไรได้มากมาย แน่นอนว่า สิ่งที่แตกต่างไม่ใช่สินค้าแน่นอนแต่กลับเป็นตัวตนของผู้ขายเอง เปรีบยเทียบได้กับร้านค้าออนไลน์ก็เหมือนกัน มีร้านค้าที่ขายสินค้าเหมือนกันเพียบ เยอะแยะมากมาย และลูกค้าก็ไม่เห็นหน้าร้านจริง แต่บางร้านขายดี และบางร้านขายไม่ออก ขึ้นอยู่กับว่า เขาทำ การตลาดทาง Facebook อะไรให้ดึงดูดใจลูกค้าบ้างนั่นเอง เช่น

– การตั้งชื่อร้าน

ถ้าชื่อร้านของคุณไม่ตรงหรือไม่เข้ากับสินค้าที่ขาย การเสิร์ทหาชื่อให้เจอร้านของคุณจึงเป็นเรื่องที่ยาก ลองนึกถึงคนเสิร์ทหาร้านยางรถยนต์ คุณก็ต้องค้นหาคำว่า ยาง, ขายยาง , tire เป็นต้น แต่ถ้าตั้งชื่อว่า ร้าน boy shop ชื่อแบบนี้ไม่มีใครรู้ว่าคุณขายยางแน่นอน ดังนั้นควรตั้งชื่อร้านที่บอกให้รู้ว่าขายเกี่ยวกับอะไรด้วย

– ข้อความที่โพสต์

ไม่ควรโพสต์แต่เรื่องเนื้อหาข้อมูลหรือของที่ขายเพียงอย่างเดียว แต่ควรมีโพสต์ที่บ่งบอกว่าคุณขายได้ด้วย เช่น การโพสต์รูปสลิปส่งของให้ลูกค้า, รูปความคิดเห็นของลูกค้าหลังการขาย หรือ รูปที่ลูกค้ามารับสินค้าเแบบนัดเจอ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ทำให้ให้ผู้ที่สนใจอยากซื้อกับคุณ มั่นใจได้ว่ามีสินค้าขายจริงๆ

– ควรโพสต์ที่มีผู้ขายเองอยู่ในโพสต์บ้าง

เช่น ถ่ายรูปคู่กับสินค้า รีวิวสินค้าด้วยตนเอง หรือโพสต์ถึงชีวิตประจำวันที่พบเจอและเชื่อมโยงมาถึงสินค้า เพื่อเพิ่มมุลค่าของสินค้า อีกทั้งเป็นการเพิ่มรีวิวผลิตภันฑ์ของตนเองได้อีกด้วย

– เพิ่มการบริการเสริมอื่นๆเข้าไป

เช่น ฟรี ems เพราะลูกค้าบางคนมองข้ามร้านค้าที่ตั้งราคาของสินค้าแล้วมาคิดบวกราคาค่าส่งเพิ่มเข้าไปอีก ดังนั้นจึงควรเพิ่มค่าส่งไปในตัวสินค้าแบบเหมาไปเลยจะดีกว่า หรืออีกวิธีหนึ่งคือ เพิ่มตัวเลือกให้กับลูกค้าด้วยการส่งแบบไปรณีย์เอกชน ลูกค้าที่ต้องการใช้สินค้าด่วนมากๆภายในวันจะเลือกส่งแบบวิธีนี้ ยิ่งร้านค่าของคุณมีบริการเสริมมากๆ ไม่โชว์ราคาชาร์จ ก็ยิ่งเป็นผลดีกับร้านของคุณ

– แจ้งวันเวลาเริ่มต้นโปรโมชั่นแบบล่วงหน้า ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น โปรโมชั่นของสายการบิน ที่มักจะระบุการทำการตลาดไว้เลยว่า โปรโมขั่นAเริ่มต้นวันที่.. เดือน.. และในระยะเวลาที่ไล่เลี่ยกันไม่ถึง 2 อาทิตย์ ก็จะปล่อยโปรโมชั่น ออกมาอีก แล้วเขียนโปรโมขั่น เริ่มต้นวันที่ .. เดือน.. ถือเป็นการจูงใจของลูกค้าได้ทั้ง2โปรโมชั่น ทั้งนี้โปรโมชั่นมีหลายแบบที่จูงใจลูกค้าได้ต่างกัน ซึ่งคุณสามารถไปเรียน การตลาดออนไลน์ หรือหาความรู้ การขายสินค้าทาง Facebook เพิ่มเติมได้จากอินเตอร์เนต

แนวทางใช้ Facebook ทำกลยุทธ์การตลาดออนไลน์

ไม่มีใครๆไม่รู้จัก Facebook แม่แต่คนที่อายุ 60ปีขึ้นไป ก็ยังรู้จักว่า Facebook คืออะไร ซึ่งแน่นอนว่าการที่คนอายุมากแล้วรู้จักว่าสิ่งสิ่งนั้นคืออะไร ถือว่าเป็นเทคโนลยีที่ประสบความสำเร็จมากเลยเดียว และด้วยสถานการร์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป มีการรับเอาเทคโนโลยีอื่นๆเข้ามามากขึ้น มีหลายๆอย่างที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับมนุษย์มากขึ้น โดยแต่ละอย่างนั้นเน้นไปที่การใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก ทำให้ผู้คนวัยไหนก็สามารถเข้าถึงได้ และนอกจาก Facebook จะเหมาะกับบุคคลทั่วไปแล้ว มันยังสามารถสร้างเป็นเพจ หรือกลุ่มทางสังคมเพื่อรองรับการพูดคุยหรือความชอบในแต่ละแบบที่แตกต่างกันออกไปได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มสุข กลุ่มของนักร้อง กลุ่มคนรักรถ กลุ่มแม่บ้าน หรือจะเป็นเพจของโรงเรียนก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน

“Facebook ให้เป็นประโยชน์ได้อย่างไร??” คำถามนี้สามารถตอบได้เลยว่า ทุกประเภทธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จาก Facebook ได้ทั้งนั้น เช่น ธุรกิจการศึกษา เช่น เพจติวเตอร์ออนไลน์  สามารถใช้ Facebook เป็นสื่อประชาสัมพันธ์คอร์สเรียนพิเศษ หรือสอนออนไลน์ได้ , ธุรกิจอาหารแม้กระทั่งอาชีพ Freelance หรืออาชีพเสริม ก็สามารถทำได้ นอกจากนี้ยังถูกนำมาใช้เป็นกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่ดีมาก โดยเฉพาะนำไปใช้กับแผนโปรโมทโรงแรม

การทำแผนโปรโมทผ่าน Facebook สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเจาะตลาดได้ เช่น อยากได้ผู้คนที่เข้าพักอายุ 20-30 ปีมาเข้าพักก็ให้ Facebook โฆษณาให้ผู้คนเฉพาะกลุ่มที่ต้องการให้เห็นได้เท่านั้น อีกทั้งการทำการตลาดแบบเลือกเฉพาะกลุ่มยังประหยัดค่าใช้จ่ายแบบการโฆษณากวาดบริเวณทั่วประเทศ ซึ่งอาจมีคนเห็นโฆษณาของคุณแค่ 5% แถมเป้าหมายจริงๆ อาจจะเพีรยง 1% เท่านั้น

การโปรโมทร้านค้าทางเฟสบุ้ค ได้โดยไม่จำกัดระยะเวลา การโฆษณาของ Facebook สามารถทำได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ผ่านข้อความ การโพสต์เป็นวิดีโอ หรือการโพสต์เป็นภาพ ซึ่งการโพสต์แต่ละครั้ง Fan page สามารถเข้ามาดูโพสต์ได้ตลอดเวลา ไม่เหมือนกับการโฆษณาผ่านทีวี ที่จะโปรโมทตอนไหนก็ไม่รู้ แถมดูซ้ำเองอีกครั้งก็ไม่ได้ด้วย

สามารถตั้งเวลาการโพสต์ล่วงหน้าได้ และ ยิ่งคุณรู้เวลาที่ Fan page ส่วนใหญ่จะเห็นโพสต์ได้ด้วยละก็ ควรรีบจัดการตั้งให้โพสต์ข้อความที่ช่วงเวลานั้นจะยิ่งเกิดประโยชน์เป็นอย่างมาก เพราะเมื่อ Fan page ส่วนใหญ่เห็น %การดึงดูดลูกค้าก็ยิ่งสูง และยิ่งหากโพสต์นั้นเป็นโพสทำการตลาดหรือโปรโปรโมชั่นด้วยแล้วล่ะก็ โอกาสที่ลูกค้าจะรีบตอบรับ รีบจอง รีบทำการค้ากับคุณก็ยิ่งมีมาก อย่าลืมว่าถ้าใช้เทคโนดลยีเป็น ย่อมสร้างประโยชน์กับธุรกิจได้เสมอ

ถ้าเรายังไม่รู้จะโปรโมทสินค้าทางเฟสบุ้ค  อาจจะลองศึกษาจากเว็บไซต์ หรือ หา คอร์สอบรม Facebook ที่มีสอนหลายที่ ตามความต้องการ

บุกตลาดออนไลน์ด้วย Facebook Marketing

บางคนกับสื่อออนไลน์นั้นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว เพราะมันเข้าถึงง่าย และยิ่งใครที่เสพติดพวกโซเชียลหรือสื่อสังคมด้วยแล้วล่ะก็ วันหนึ่งๆอาจใช้เวลาจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์เพื่อเสพข่าวพวกนี้วันละไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเดินทางตอนเช้าที่รถติดก็คว้ามือถือขึ้นมาเสพข่าว  ช่วงเวลาพักสายตาของการทำงานระหว่างวันก็หยิบขึ้นมาอ่านอีก ไหนจะพักเบรกช่วงรับประทานอาหารก็ต้องอ่านอีก จนสุดท้าย ช่วงเวลาของการเข้านอนคนพวกนี้จะหลับไม่ได้เลยถ้าไม่ได้เลื่อนฟีด เสพสื่อสังคม พูดง่ายๆว่ากลายเป็นปัจจัยที่ 5 ก็ว่าได้ และที่สำคัญคือมีคนจำพวกนี้อยู่บนโลกไม่น้อยเลย ดังนั้นจะดีแค่ไหนหากเราบุกตลาดโดยใช้สื่อโซเชียลมีเดียออนไลน์อย่าง Facebook

ทำไมจึงเลือกใช้ Facebook ในการทำการตลาด ไม่ว่าจะมือเก่าหรือมือใหม่ ถ้าใครได้ลองใช้ Facebook Marketing จะรู้ว่ามันง่ายมากๆ ไม่ว่าใครก็โพสต์ขายสินค้าได้ สามารถดึงดูดลูกค้าได้ แต่สิ่งที่ยากนั่นคือความมีวินัยของเจ้าของ และความอดทนในการรอคอยให้ประสบความสำเร็จ  เพราะคนส่วนใหญ่มีนิสัยเห็นคนอื่นทำได้ เลยอยากลองทำ แต่ไม่ได้มีจิตใจที่มุ่งมั่นแน่วแน่ แผนเลยพังไม่เป็นท่า หากรู้แบบนี้แล้วก็ควรเพิ่มความอดทนอีกสักหน่อย ร้านค้าของคุณน่าจะประสบความสำเร็จมากกว่าที่เป็นอยู่

ฟีเจอร์ของ Facebook มีการปรับจากง่ายอยู่แล้ว ให้ง่ายเข้าไปอีก โดยการจำลองสถานการณ์เหมือนกับการขายของตามตลาดสดเลยก็ว่าได้ นั่นคือ ฟีเจอร์ Facebook Live หรือ การถ่ายทอดสด ซึ่งแน่นอนว่าใครที่มีหัวคิดทางการขายย่อมนำสิ่งนี้ของ Facebook มาใช้ในการโฆษณาสินค้าแน่นอน อยากพูดดึงดูดเชิญชวนลูกค้าหรืออะไรก็พูดออกมา ยิ่งพูดเก่งๆยิ่งดี  ใครอยากรู้ขนาด รู้ไซส์ก็ดูได้จาก Facebook Live นี้แหละ เท่านั้นยังไม่พอ ฟีเจอร์นี้ยังมีการเปิดให้แชทถามตอบได้ระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อด้วย ผู้ซื้อก็พิมคำถามมา ส่วนผู้ขายก็อ่านคำถาม แล้วก็พูดๆๆๆ เหมือนกับการถ่ายทอดสดได้เลย นับได้ว่าเป็นฟีเจอร์ที่เด็ดดวงเหมาะกับเถ้าแก่ออนไลน์มากๆ

แนวทางสุดท้ายหากยังมองไม่เห็นถึงความง่ายของ Facebook คุณลองลงทุนเรียนอบรมการตลาดออนไลน์ดูสิ แล้วจะรู้ว่ามันเป็นอะไรที่คุ้มค่ากับการลงทุนมากๆ เพราะปกติแล้ว คอร์สการเรียนการตลาดทาง Facebook ปัจจุบันมีราคาไม่แพงมากนัก แถมที่นั่นยังสอนคุณทุกๆอย่างตัง้แต่ต้น ไปจนถึงวิธีการที่จะทำให้ประสบความสำเร็จแบบที่เป็นตัวของตัวเอง เมื่อเรียนเสร็จแล้วคุณสามารถนำมาประยุต์ใช้ได้จริง ซึ่งกำไรที่ได้มา ถือว่าคุ้มค่ากับการลงเรียน